-
@ HereTong
2025-06-03 02:25:52ไม่มีใครเคี้ยวเซลล์ได้หรอก แต่ถ้ามีคนบอกว่า “นี่คือไก่ชุบแป้งทอด” เราก็จะกัดเข้าไปโดยไม่รู้เลยว่า มันเริ่มต้นจากจุดที่เล็กกว่าเศษฝุ่นบนโต๊ะ
เฮียอยากเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของ “ไก่ที่ไม่มีไก่” หรือ “เนื้อที่ไม่เคยมีฟาร์ม” มันคือเนื้อที่เพาะในห้องแล็บ แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นของปลอม เพราะจริง ๆ แล้ว มันคือเนื้อที่ไม่มีการฆ่า
เราเคยคุยกันไปแล้วว่า Upside Foods เป็นหนึ่งในบริษัทที่เดินหน้าสร้าง “อนาคตที่เคี้ยวได้” พวกเขาเริ่มจากสิ่งที่บางคนอาจมองว่าเป็นวิทยาศาสตร์วิปลาส แต่จริง ๆ แล้วมันคือศิลปะที่ซับซ้อนระหว่างชีววิทยาและอาหาร วันนี้เฮียจะเล่าให้ฟังว่า เขาทำเนื้อแบบนั้นยังไง ตั้งแต่เซลล์จิ๋ว ๆ จนกลายมาเป็นไก่ทอดที่เสิร์ฟบนจาน เรามาเรียนรู้กันครับ
ทุกอย่างเริ่มจาก เซลล์ต้นกำเนิด แต่ไม่ใช่แบบที่ใครจะคิดว่าต้องตัดชิ้นส่วนสัตว์มาทั้งตัว แค่เซลล์เดียวก็พอ โดยเฉพาะเซลล์จากไข่ไก่ที่ได้รับการปฏิสนธิ ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการแบ่งตัวอย่างต่อเนื่องโดยไม่สูญเสียคุณภาพ เซลล์นั้นจะถูกคัดเลือกในขั้นตอนที่เรียกว่า Select หรือการหา “ตัวแทนเนื้อ” ที่เก่งที่สุด แข็งแรงที่สุด และกินเก่งที่สุดในบรรดาเซลล์ทั้งหมด
จากนั้นจึงเข้าสู่การ เพาะเลี้ยง (Cultivate) เซลล์จะถูกส่งเข้าไปอยู่ใน “ถังเพาะเลี้ยง” หรือ cultivator ซึ่งทำหน้าที่เหมือนครรภ์จำลอง ถังนี้มีทุกอย่างที่เซลล์ต้องการ น้ำ ออกซิเจน กรดอะมิโน น้ำตาล วิตามิน แร่ธาตุ และเกลือ เรียกง่าย ๆ ว่า “อาหารเซลล์” ที่ถูกปรุงให้ใกล้เคียงกับสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่สุด เพื่อให้เซลล์เจริญเติบโต ขยายตัว และกลายเป็นเนื้อแบบที่เราเคยกินกัน
เวลาผ่านไป 2-3 สัปดาห์ เนื้อที่เติบโตมาจากเซลล์ก็พร้อมจะถูกเก็บเกี่ยวในขั้นตอนที่เรียกว่า Prepare เหมือนเก็บเกี่ยวข้าว แต่แทนที่จะเป็นต้นข้าว ก็คือ “มวลเซลล์” ที่พร้อมแปรรูป มันถูกนำออกมาจากถังเพาะเลี้ยง แล้วเข้าสู่ขั้นตอนการขึ้นรูป ปรุงรส แช่เย็น และบรรจุให้พร้อมจำหน่าย
ถ้าจะให้เฮียเปรียบ มันก็เหมือนเด็กที่ถูกเลี้ยงให้เติบโตในอ้อมกอดของเครื่องจักร แทนที่จะโตในแม่ไก่ ฟังดูแปลก แต่จริง ๆ แล้วมันคือความพยายามที่จะนำเสนอภาพการสร้างอาหารโดยไม่ต้องมีชีวิตใดถูกพราก ตามที่การตลาดและโฆษณาต้องการสื่อ
และถ้าใครสงสัยว่า โรงงานที่ทำเรื่องแบบนี้หน้าตาเป็นยังไง มันไม่ได้เหมือนห้องแล็บลับ ๆ หรืออะไรที่มีหมอกวิทยาศาสตร์คลุ้งฟุ้ง Upside Foods มีโรงงานชื่อว่า EPIC (ย่อจาก Engineering, Production and Innovation Center) อยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และสามารถผลิตเนื้อได้ถึง 50,000 ปอนด์ต่อปี ภายในโรงงานนั้นมีทั้งห้องเพาะเลี้ยง ห้องควบคุม ห้องปรุงอาหาร และห้องพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ครบทุกฟังก์ชัน แถมมีการลงทะเบียนเข้าชม factory trip ได้ด้วยนะครับ
ที่สำคัญที่สุด ทุกขั้นตอนได้รับการตรวจสอบจากทั้ง FDA และ USDA อย่างเข้มงวด ไม่ใช่แค่ความสะอาด แต่รวมไปถึงการควบคุมทุกตัวแปรทางชีวภาพ เพราะการผลิตเนื้อโดยไม่มีสัตว์นั้น แม้จะฟังดู “เมตตา” แต่ถ้าพลาดก็กลายเป็นเรื่องอันตราย (แต่ไม่ต้องถามนะครับว่าผ่าน GRAS มาได้ยังไง)
Upside Foods จึงให้ความสำคัญกับการทำการสื่อสารองค์กรให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่า เนื้อที่ไม่มีชีวิตนี้ ยังปลอดภัยสำหรับชีวิตเช่นกัน
ทั้งหมดนี้คือศาสตร์และศิลป์ของ “เนื้อจากเซลล์” ที่อาจเป็นคำตอบหนึ่งของอนาคต เฮียไม่ได้บอกว่ามันคือคำตอบเดียว และเฮียก็ยังรักเนื้อที่มาจากฟาร์มจริง ๆ แต่ในวันที่โลกเริ่มตั้งคำถามกับการบริโภคที่ไม่ยั่งยืน การมีทางเลือกที่ไม่ทำร้าย ก็อาจเป็นเรื่องที่น่าคิด เพราะถ้าเราเลือกกินได้โดยไม่ต้องฆ่า แล้วรสชาติยังอร่อยเหมือนเดิม ถึงเวลานั้นแล้วประชาชนเองหรือเปล่าที่จะยินดีโอบรับอาหารแบบนี้ในชีวิตประจำวัน แล้วไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงเกษตรกรทั้งปศุสัตว์และเกษตกรรม เพราะเขาอาจมองว่าจะมาจากไหนก็ต้อง "ซื้อ" กินอยู่ดี โดยเฉพาะถ้าสังคมเมืองต้องวิ่งแบบหนูถีบจักรภายใต้ระบบ fiat บริบทของ การซื้อจากไหนก็ไม่สำคัญ จะเข้ามาครองจิตใจประชากรหรือเปล่า เมื่อถึงวันนั้นผู้ทำอาชีพเกษตรอาจไม่เหลืออยู่ แล้วคำพูดที่ว่า "ยังไงฉันก็เลือกอาหารธรรมชาติ" มันยังสามารถอยู่บนโลกได้จริงไหม ทุกวันนี้เราปลูกเราเลี้ยงอะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือยัง เรายังซื้ออยู่ใช่หรือไม่
แหที่หว่านนั้นมันกว้างจนเราไม่รู้ตัวหรือเปล่า ว่ากำลังพูดอะไรอยู่?
นี่คือคำถาม ที่ขยายภาพขึ้นมาอีกครับ
#pirateketo #กูต้องรู้มั๊ย #ม้วนหางสิลูก #siamstr