-
@ HereTong
2025-05-25 01:03:51บางครั้งพลังยิ่งใหญ่ที่สุดก็ไม่ใช่สิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า เหมือนแสงแดดที่คนส่วนใหญ่มักจะกลัวเพราะกลัวผิวเสีย กลัวฝ้า กลัวร้อน แต่แท้จริงแล้วในแสงแดดมีบางสิ่งที่น่าเคารพอยู่ลึกๆ มันคือแสงที่มองไม่เห็น มันไม่แสบตา ไม่แสบผิว แต่มันลึก ถึงเซลล์ มันคือ “แสงอินฟราเรด” ที่ซ่อนตัวอย่างสุภาพในแดดยามเช้า
เฮียมักชอบพูดว่า แดดที่ดีไม่จำเป็นต้องแสบหลัง อาบแสงที่ลอดผ่านใบไม้ยามเช้าแบบไม่ต้องฝืนตาก็พอ แสงอินฟราเรดนี่แหละคือพระเอกตัวจริงในความเงียบ มันไม่ดัง ไม่โชว์ ไม่โฆษณา แต่มันลงลึกไปถึงระดับที่ร่างกายเรากำลังหิวโดยไม่รู้ตัวในระดับเซลล์
ในเซลล์ของเรา มีหน่วยผลิตพลังงานที่เรียกว่าไมโทคอนเดรีย เจ้านี่แหละคือโรงไฟฟ้าจิ๋วประจำบ้าน ที่ต้องตื่นมาทำงานทุกวันโดยไม่ได้หยุดเสาร์อาทิตย์ ยิ่งถ้าไมโทคอนเดรียทำงานไม่ดี ร่างกายก็จะเหมือนไฟตกทั้งระบบ—ง่วงง่าย เพลียไว ปวดนู่นปวดนี่เหมือนไฟในบ้านกระพริบตลอดเวลา
แล้วแสงอินฟราเรดเกี่ยวอะไรกับมัน? เฮียขอเล่าง่ายๆ ว่า ไมโทคอนเดรียมีตัวรับแสงตัวหนึ่งชื่อว่า cytochrome c oxidase เจ้านี่ตอบสนองต่อแสงอินฟราเรดช่วงคลื่นเฉพาะ คือประมาณ 600–900 นาโนเมตร พอโดนเข้าไป มันเหมือนได้จุดประกายให้โรงงานพลังงานในร่างกายกลับมาคึกคักอีกครั้ง ผลิตพลังงานได้มากขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดก็ดีขึ้น เหมือนท่อน้ำที่เคยอุดตันก็กลับมาใสแจ๋ว ความอักเสบเล็กๆ ในร่างกายก็ลดลง คล้ายบ้านที่เคยอับชื้นแล้วได้เปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องเข้าไป
และที่น่ารักกว่านั้นคือ เราไม่ต้องไปถึงชายหาด ไม่ต้องจองรีสอร์ตริมทะเล แค่แดดเช้าอ่อนๆ ข้างบ้านหรือตามขอบระเบียง ก็ให้แสงอินฟราเรดได้แล้ว ถ้าใครอยู่ในเมืองใหญ่ที่มีแต่ตึกบังแดด แล้วจะเลือกใช้หลอดไฟ Red Light Therapy ก็ไม่ผิด แต่ต้องเลือกแบบรู้เท่าทันรู้ ไม่ใช่เห็นใครรีวิวก็ซื้อมาเปิดใส่หน้า หวังจะหน้าใสข้ามคืน ต้องเข้าใจทั้งความยาวคลื่น เวลาใช้งาน และจุดประสงค์ ไม่ใช่ใช้เพราะแค่กลัวแก่อยากหน้าตึง แต่ใช้เพราะอยากให้ร่างกายกลับไปทำงานอย่างเป็นธรรมชาติอีกครั้ง และอยู่ในประเทศหรือสถานที่ที่โดนแดดได้น้อยอยากได้เสริมเฉยๆ
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าไมโทคอนเดรียเรากลับมาทำงานดีขึ้น? เฮียว่าไม่ต้องรอผลเลือดจากแล็บไหนก็รู้ได้ อย่าไปยึดติดกับตัวเลขมากครับ เอาตัวเองเป็นหลัก ตั้งคำถามกับตัวเองว่ารู้สึกยังไงบ้าง ถ้าเริ่มนอนหลับลึกขึ้น ตื่นมาแล้วหัวไม่มึน ไม่หงุดหงิดตั้งแต่ยังไม่ลืมตา ถ้าปวดหลังปวดข้อที่เคยมีเริ่มหายไปแบบไม่ได้กินยา หรือแม้แต่ผิวที่ดูสดใสขึ้นแบบไม่ต้องง้อสกินแคร์ นั่นแหละคือเสียงขอบคุณเบาๆ จากไมโทคอนเดรียที่ได้แสงแดดแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ถ้ามันดีก็คือดี
บางที เราไม่ต้องกินวิตามินเม็ดไหนเพิ่ม แค่เดินออกไปรับแดดเบาๆ ในเวลาเช้าๆ แล้วให้ร่างกายได้พูดคุยกับธรรมชาติบ้าง เพราะในความอบอุ่นเงียบๆ ของแสงอินฟราเรดนั้น มีเสียงเบาๆ ที่กำลังปลุกพลังในตัวเราให้กลับมาอีกครั้ง
แดดไม่ใช่ศัตรู ถ้าเรารู้จักมันในมุมที่ถูกต้อง เฮียแค่อยากชวนให้ลองเปลี่ยนจากคำว่า “กลัวแดด” เป็น “ฟังแดด” เพราะบางครั้งธรรมชาติไม่ได้พูดด้วยคำ แต่สื่อสารด้วยแสงที่แทรกผ่านหัวใจเราโดยไม่ต้องผ่านล่าม
บางคนอาจคิดในใจ “แหมเฮีย ก็ดีหรอก ถ้าได้ตื่นเช้า” 555555
เฮียเข้าใจดีเลยว่าไม่ใช่ทุกคนจะตื่นมาทันแดดยามเช้าได้เสมอไป ชีวิตคนเรามันไม่ได้เริ่มต้นพร้อมไก่ขันทุกวัน บางคนเพิ่งเข้านอนตอนตีสาม ตื่นอีกทีแดดก็แตะบ่ายเข้าไปแล้ว ไม่ต้องกังวลไปจ้ะ เพราะความมหัศจรรย์ของแสงอินฟราเรดยังมีให้เราได้ใช้แม้ในแดดยามเย็น
แดดช่วงเย็น โดยเฉพาะหลังสี่โมงเย็นไปจนเกือบหกโมง (หรือเร็วช้าตามฤดู) ก็ยังอุดมไปด้วยแสงอินฟราเรดในช่วงคลื่นที่ไมโทคอนเดรียชอบ แถมยังไม่มีรังสี UV ที่แรงจัดมารบกวนเหมือนตอนเที่ยง เรียกว่าเป็นแดดแบบละมุนๆ สำหรับคนที่อยาก “บำบัดใจ” แบบไม่ต้องร้อนจนหัวเปียก
เฮียเคยลองตากแดดเย็นเดินไปในสวนสาธารณะ แล้วรู้สึกว่ามันเหมือนได้รีเซ็ตจิตใจหลังวันเหนื่อยๆ ไปในตัว ยิ่งพอรู้ว่าในช่วงเวลานี้แสงที่ได้กำลังช่วยปลุกพลังงานในร่างกายแบบเงียบๆ ด้วยแล้ว มันทำให้เฮียยิ่งเคารพธรรมชาติมากขึ้นไปอีก เคยเห็นคนที่วันๆมีแต่ความเครียด ความโกรธ ความอาฆาตต่อโลกไหมหละ บางคนแค่โดนแดด แต่ไม่ได้ตากแดด การตากแดดคือปล่อยใจไปกับธรรมชาติ พูดคุยกับร่างกาย บอกเขาว่าเราจะทำตัวให้เป็นประโยชน์กับโลกใบนี้ ให้สมกับที่ใช้พลังงานของโลก
จะเช้าหรือเย็น สำคัญไม่เท่ากับความตั้งใจ เฮียว่าไม่ว่าชีวิตจะตื่นตอนไหน ถ้าเราให้เวลาแค่ 10–15 นาทีในแต่ละวัน ออกไปยืนให้แดดแตะหน้า แตะแขน หรือแค่ให้แสงลอดผ่านตาเบาๆ โดยไม่ต้องจ้องจ้าๆ ก็พอ แค่นี้ก็เป็นการให้ไมโทคอนเดรียได้หายใจ ได้ออกกำลังกายแบบของมัน และได้ส่งพลังกลับมาหาเราทั้งร่างกายและจิตใจ
สุดท้ายแล้ว แดดไม่ได้แบ่งชนชั้น ไม่เลือกว่าจะรักเฉพาะคนตื่นเช้า หรือโกรธคนตื่นสาย ขอแค่เรารู้จักเวลาและวิธีอยู่กับมันอย่างถูกจังหวะ แดดก็พร้อมจะให้เสมอ
#pirateketo #กูต้องรู้มั๊ย #ม้วนหางสิลูก #siamstr #SundaySpecialเราจะไปเป็นหมูแดดเดียว