-

@ Journaling Our Journey
2025-06-16 00:53:21
https://image.nostr.build/b985f01dab18df892e2dbb5206f88aa263e08d600477bba09a71877fa1b54842.jpg
เวลาที่เราซื้อของขวัญให้ใครสักคน และเราอยากให้คนที่รับของขวัญเขามีความสุข เราจะเลือกซื้อของขวัญอย่างไร?
.
เราจะซื้อของขวัญที่เราชอบ หรือว่าเราจะซื้อของขวัญที่เขาชอบ?
.
แน่นอนครับว่า หากเราอยากให้คนที่รับของขวัญเขามีความสุข เราจะต้องเลือกซื้อของขวัญที่เขาชอบอยู่แล้ว
.
การแสดงความรักให้กับคนที่เรารัก (เช่น ครอบครัว แฟน เพื่อนสนิท) ก็ไม่ต่างอะไรกับการซื้อของขวัญที่ผมกล่าวถึงในข้างต้นเลยครับ
.
บ่อยครั้ง เวลาที่เราแสดงความรักให้กับคนที่เรารัก เราจะแสดงความรักในรูปแบบที่เราถนัด คุ้นชิน หรืออยากได้รับ โดยที่เราไม่ทันได้นึกว่า อีกฝ่ายเขาอาจอยากได้รับความรักจากเราในอีกรูปแบบหนึ่งมากกว่า
.
ยกตัวอย่างเช่น
.
เราชอบที่จะแสดงความรักกับแฟนด้วยการบอกรักแฟน แต่แฟนอยากที่จะให้เราใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ด้วยกันเยอะๆมากกว่า
.
เราชอบที่จะแสดงความรักกับลูกด้วยการช่วยสอนลูกทำการบ้าน แต่ลูกอยากให้เราเล่นกีฬากับลูกมากกว่า
.
เราชอบที่จะแสดงความรักกับเพื่อนสนิทด้วยการซื้อของขวัญเล็กๆน้อยๆให้ แต่เพื่อนอยากให้เรารับฟังเวลาที่เพื่อนเล่าเรื่องทุกข์ใจในชีวิตมากกว่า
.
เป็นต้น
.
การแสดงความรักในรูปแบบที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการของอีกฝ่ายนี้ มันสามารถนำมาสู่ความขัดแย้งระหว่างตัวเรากับอีกฝ่ายได้ (เช่น อีกฝ่ายไม่รู้สึกว่าเรารัก ในขณะที่เราก็น้อยใจที่อีกฝ่ายดู “ไม่เห็นค่า” ในความรักที่เรามอบให้)
.
นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลายคนมักจะพูดว่า “แค่ความรักเพียงอย่างเดียว…มันไม่เพียงพอ”
.
เพราะหากเรารักอีกฝ่ายในรูปแบบที่ “ไม่ตรงจุด” ไม่ว่าเราจะทุ่มเทกับการแสดงความรักนี้ขนาดไหน มันก็มีโอกาสที่อีกฝ่ายจะไม่ได้ “รู้สึก” ถึงความรักที่เรามีให้ขนาดนั้น (ซึ่งท่าทีที่ไม่ได้ “รู้สึก” นี้ก็สามารถสร้างความน้อยใจให้กับเราได้ไม่น้อยเลยทีเดียว)
.
ด้วยเหตุนี้ การสื่อสารกับคนที่เรารักเพื่อทำความเข้าใจว่าเขาต้องการความรักรูปแบบไหนจากเรานั้น จึงถือเป็นเรื่องที่ “ขาดไม่ได้” ในการช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขามีความเข้มแข็งครับ
.
อ้างอิง
https://doi.org/10.1371/journal.pone.0269429
#จิตวิทยา #siamstr